[23] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความดับ ความสงบ ความไม่มี
แห่งรูป เป็นความดับแห่งทุกข์ เป็นความสงบแห่งโรค เป็นความไม่มี
แห่งชราและมรณะ ฯลฯ ความดับ ความสงบ ความไม่มีแห่งธรรมารมณ์
เป็นความดับแห่งทุกข์ เป็นความสงบแห่งโรค เป็นความไม่มีแห่งชรา
และมรณะ.
จบ ทุติยอุปปาทสูตรที่ 10
ยมกวรรคที่ 2
อรรถกถาปฐมอภินันทสูตรที่ 7 เป็นต้น
ในสูตรที่ 7 เป็นต้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสวัฏฏะและวิวัฏฏะ
ไว้ใน 4 สูตร แต่อนุปุพพิกกาพึงทราบโดยนัยที่ตรัสแล้วนั่นแหล่ะ ใน
หนหลังแก่ภิกษุเหล่านั้น.
จบ อรรถกถาปฐมอภินันทสูตรที่ 7 เป็นต้น
จบ อรรถกถายมกวรรคที่ 2
รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ
1. ปฐมสัมโพธสูตร 2. ทุติยสัมโพธสูตร 3. ปฐมอัสสาทสูตร
4. ทุติยอัสสาทสูตร 5. ปฐมโนอัสสาทสูตร 6. ทุติยโนอัสสาสูตร
7. ปฐมอภินันทสูตร 8. ทุติยอภินันทสูตร 9. ปฐมอุปปาทสูตร
10. ทุติยอุปปาทสูตร
สัพพวรรคที่ 3
1. สัพพสูตร
ว่าด้วยทรงแสดงสิ่งทั้งปวง
[24] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงสิ่งทั้งปวงแก่เธอทั้งหลาย
เธอทั้งหลายจงฟังข้อนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นสิ่งทั้งปวง. จักษุ
กับรูป หูกับเสียง จมูกกับกลิ่น ลิ้นกับรส กายกับโผฏฐัพพะ ใจกับ
ธรรมารมณ์ อันนี้เรากล่าวว่าสิ่งทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดพึงกล่าว
อย่างนี้ว่า เราบอกปฏิเสธสิ่งทั้งปวง จักบัญญัติสิ่งอื่นแทน วาจาของผู้นั้น
พึงเลื่อนลอย ดุจวัตถุเทพดา แต่ครั้นถูกถามเข้า ก็ตอบไม่ได้ และจะ
อึดอัดใจยิ่งขึ้น ข้อนั้นเพราะเหตุอะไร. เพราะข้อนั้นไม่ใช่วิสัย.
จบ สัพพสูตรที่ 1
อรรถกถาสัพพสูตรที่ 1
สัพพวรรคที่ 3 สัพพสูตรที่ 1 มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สพฺพํ โว ภิกฺขเว ชื่อว่า สัพพะ มี 4 อย่าง คือ
สัพพสัพพะ, อายตนสัพพะ, สักกายสัพพะ, ปเทสสัพพะ
ใน 4 อย่างนั้น
สัพพะว่าอะไร ๆ ที่พระองค์ไม่เคยเห็นในโลกนี้
ย่อมไม่มี ไม่รู้สิ่งที่ไม่ควรรู้ก็ไม่มี อนึ่งพระตถาคต
ทรงรู้ยิ่งถึงเนยยะ ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด เพราะฉะนั้น
พระตถาคต จึงทรงพระนามว่า สมันตจักษุ.